การปลูกฝังพนักงานในแบบคุณาลัย
คุณาลัยมีการปกครองพนักงานด้วยความเมตตา โอบอ้อมอารี ให้ความใส่ใจ และให้โอกาสการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานของพนักงานทุกคน เพื่อให้ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข
ประวีรัตน์ กล่าวว่า “รัตน์จะบอกพนักงานเสมอว่า อย่าคิดว่าบริษัทต้องสร้างสังคมที่ดีให้กับเขา พวกเขาจะต้องช่วยกันสร้าง เขาอยากได้แบบไหน เขาก็ต้องสร้างแบบนั้น เขาอยากได้บริษัทที่มีเพื่อนร่วมงานที่ดี เขาก็ต้องเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี”
“รัตน์ให้ความสำคัญกับคนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมงาน การเลือกคนมาร่วมงานกับเราก็สำคัญ เวลารัตน์จะเลือกพนักงาน รัตน์จะเลือกคนที่มีใจเดียวกับเรา คือ เรียนรู้ สู้งาน มีจริยธรรม อีโก้ต่ำ และความรับผิดชอบสูง ถ้าใจไม่ตรงกัน เราก็ร่วมทางกันได้ยาก”
“แต่ในขณะเดียวกัน เราเป็นหนึ่งบุคคลที่อยู่ในสังคมการทำงาน รัตน์ก็มีหน้าที่สร้างสังคมที่ดีในการทำงาน เพื่อให้เป็นบ้านที่ดีของพวกเขา แต่แน่นอน ถ้าทุกคนสร้างความสุขที่ทำงานให้เสมือนเป็นบ้าน พวกเขาอาศัยอยู่ในช่วงเวลากลางวัน โดยมีตำแหน่งหน้าที่การงานมาผูกพันกันในสายงาน แต่เบื้องหลังคือพี่น้อง”
เพราะคุณาลัยไม่ได้ขายแค่บ้าน แต่คุณาลัยขายสังคม ขายในส่วนของสิ่งแวดล้อม สิ่งที่จะต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น ลูกบ้านโกรธเราไม่เป็นไร เพราะบางครั้งเราไม่สามารถทำตามความต้องการของลูกบ้าน 200 ครอบครัวในเวลาเดียวกันได้ทั้งหมด แต่ลูกบ้านห้ามโกรธกันเอง นั่นคือสิ่งที่ยึดมาตลอด
ในมุมของคำว่าบ้าน มันลึกซึ้ง เพราะบ้านคือความสุข ความสุขสร้างบ้าน แท้จริงแล้วมันคือสิ่งแวดล้อมที่ดีในบริษัทมันก็จะส่งออกไปในทุกๆ สิ่งที่บริษัททำ
ลูกค้าของคุณาลัย
ลูกค้าของคุณาลัยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ทำงานหนัก รักครอบครัว มีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทย สนใจในเรื่องความคุ้มค่ามากกว่าเรื่องแบรนด์ แต่ในขณะเดียวกันก็สนใจในมาตรฐานของแบรนด์ที่จะตอบโจทย์ความคุ้มค่าในความรู้สึก ลูกค้าซื้อบ้านคุณาลัยส่วนใหญ่เป็นเพราะมอบเป็นของขวัญให้ใครสักคนหนึ่งในชีวิตของเขา เช่น แม่ซื้อเป็นของขวัญให้ลูกสาวที่กำลังจะแต่งงาน อยากให้หลานได้เติบโตในพื้นที่ที่กว้างและมีพื้นที่ได้วิ่งเล่น ลูกตั้งใจมาซื้อบ้านในคุณาลัยเพราะอยากจะให้พ่อที่เกษียณแล้วได้ปลูกต้นไม้และใช้ชีวิตเกษียณได้อย่างแข็งแรง ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะอยากได้บ้าน และลูกค้าเราทำงานหนักทุกคน และพบว่าคนที่ตัดสินใจซื้อส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในบ้านค่อนข้างน้อย เพราะทำงานหนักที่สุด
“ดังนั้นสิ่งที่เราทำคือมัน Beyond ว่าเป็นเพียงที่อยู่อาศัย ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำให้ได้คือจะต้องตอบในเรื่องของความต้องการที่มันลึกซึ้งกว่าคำว่าบ้าน เราจึงต้องสนใจทั้งสิ่งแวดล้อม เสน่ห์ของการบริการของพนักงาน เรื่องมาตรฐานของแบรนด์ที่เขาซื้อไปแล้วจะต้องพอใจ เรื่องของ Facility ในโครงการที่จะต้องตอบโจทย์วันเสาร์อาทิตย์ วันหยุดที่เขาจะได้รับ”