เทสโก้ โลตัส ให้น้ำหนักกับการสร้างความแตกต่างในมุมที่กล่าวมากับสินค้าในกลุ่มอาหารสด โดยชูเรื่องของการควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นทางคือจากเกษตรกร ไปจนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งเทสโก้ โลตัสมีการเข้าไปรับซื้อตรงถึงตัวเกษตรกร พร้อมกับช่วยให้คำแนะนำในการผลิตเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ที่สำคัญยังสามารถตรวจสอบกลับในเรื่องของคุณภาพได้อีกด้วย
การสร้างความแตกต่างด้วยการเติมเต็มสินค้าในกลุ่มอาหารสดนี้ ยังมีการนำสินค้าบางกลุ่มที่ก่อนหน้านี้มีราคาแพงมาทำในเรื่องของราคาให้สามารถจับต้องได้ง่ายขึ้น อย่างตัวแซลมอนนอร์เวย์ที่เป็นเฮ้าส์แบรนด์ของเทสโก้ โลตัสนั้น มีการวางราคาขายไว้ชิ้นละ 59 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เข้าถึงได้ไม่ยากนัก
เทสโก้ โลตัส มีการทำแคมเปญ “ฟู้ด เลิฟ สตอรี่” ซึ่งเป็นการสื่อถึงการส่งมอบความรักผ่านเมนูต่างๆ ที่เทสโก้ โลตัส จะสอดแทรกการนำเสนอสินค้าประเภทอาหารสดคุณภาพ โดยในแคมเปญแรก เป็นการพูดถึงตัวเมนูตัวแซลมอน ส่วนในแคมเปญที่ 2 จะมีการขยายเมนูไปยังตัวอื่นๆ อาทิ กุ้งขาวขนาดใหญ่ เนื้อปลากะพง แอปเปิ้ลเอนวี และกีวี จากนิวซีแลนด์ ที่แน่นอนว่า มีการทำให้ราคาถูกลงเพื่อให้สามารถจับต้องได้ง่ายขึ้น
การเลือกสินค้าในกลุ่มอาหารสด เป็นตัวสร้างความแตกต่าง เพื่อทำให้เกิดสโตร์ ลอยัลตี้ นั้น นอกจากจะเป็นตัวที่สร้างความแตกต่างได้ง่าย จากคุณภาพที่สามารถควบคุมได้ด้วยตัวเองแล้ว อาหารสด ยังเป็นตัวช่วยดึงให้ลูกค้ามาใช้บริการที่สโตร์ในความถี่ที่มากขึ้นด้วย เพราะเป็นสินค้าที่ต้องบริโภคในชีวิตประจำวันนั่นเอง
เทสโก้ โลตัส พยายามตอกย้ำในเรื่องของการสร้างความแตกต่างผ่านคุณภาพของสินค้าในทุกทัชพ้อยท์ แม้แต่การทำแคมเปญโปรโมชั่น ที่ล่าสุดเทสโก้ โลตัส มีการจัดแคมเปญฉลองครบรอบ 25 ปี จัดเต็มลดราคาและโปรโมชั่นตลอด 3 เดือน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความคุ้มค่าชูสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง ภายใต้ธีม “ถูกกว่าทุกที ดีกว่าทุกครั้ง” เพื่อให้ลูกค้าสามารถจับต้องความแตกต่างในเรื่องดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรมนอกเหนือจากการลดราคาซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทำมาตลอด