การทุ่มงบประมาณกว่า 17,000 ล้านบาท ของ KBTG สำหรับแผนระยะสั้น 3 ปี (ปี 2020 – 2021) เพื่อการวาง รากฐานเทคโนโลยีในหลายเรื่องสำคัญให้กับธนาคารกสิกรไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ KBank Vision 2020 “A Step Ahead Forever” มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อผลักดันให้กสิกรไทยก้าวสู่การเป็น Tech Company อย่างเต็มรูปแบบ
โดยหลักใหญ่ใจความสำคัญของกระบวนการทำงาน จะเป็นเรื่องของการวางระบบด้านเทคโนโลยีใหม่ มีการขับ เคลื่อนนวัตกรรมด้วย AI และ Data นอกเหนือจากการสนับสนุนการพัฒนาบริการของพันธมิตรด้วยการเปิด API รับการ เชื่อมต่อเข้ากับระบบบริการของธนาคาร (Open Banking API) ควบคู่ไปกับการหา New S Curve Factory
ท่ามกลางการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วย AI และ Data เพื่อทำให้องค์กรก้าวไปสู่เป้าหมายใหญ่ที่วางไว้ โดยมี KBTG ทำหน้าที่ผสานแพลตฟอร์มของข้อมูล และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน (Data and AI Pipeline) และกระบวนการจัด การนวัตกรรม (Innovation) เพื่อเร่งสร้างโปรดักต์นวัตกรรมให้ธนาคารกสิกรไทย
ภายใต้กระบวนการทำงานของโมเดล KPlus Platform เรืองโรจน์ พูนผล หรือ “กระทิง” ประธาน Kasikorn Business Technology Group หรือ KBTG หน่วยงานที่ดูแลด้านเทคโนโลยีของเครือธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในทุกๆ วินาทีจะต้องมีการกระบวนการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เข้ามาแบบเรียลไทม์ราวๆ 50 เทราไบซ์
“เปรียบเทียบได้กับการดูซีรีส์ Game of Throne เป็นจำนวนมากถึง 22 ตอน หรือเกือบๆ 2 ซีซั่น ถือเป็นความสุด เป็น โจทย์ที่ยากมาก ต้องวิเคราะห์ให้เร็ว ดังนั้นในกระบวนการทำงานจึงต้องมีทีม Machine Learning เพราะโมเดลที่ดีบางทีก็คำนวณได้ช้า”
เบื้องหลังงานไอทีที่ยุ่งยากจึงมีทีมงานสำคัญอย่าง Machine Learning คอยซัพพอร์ต วันนี้ BrandAge Online จึงอยากพาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักทีมงานคุณภาพที่อยู่ภายใต้การดูแลของ KASIKORN Labs ของ KBTG กับการทำ DATA Streaming เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลได้แบบเรียลไทม์
เพราะงานหลักๆ ของ KASIKORN Labs คือ การนำเรื่องของ Machine Learning มาพัฒนา Data-Driven Transformation เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ซึ่งในแต่ละปีข้อมูลที่เก็บได้จะมีจำนวนมหาศาล ว่ากันว่า เฉพาะ ของ KBank ปี 2562 ทั้งปีเท่ากับข้อมูลที่ผ่านมากว่า 70 ปีของ KBank รวมกัน และปีนี้ก็คาดว่าจะมีมากเท่ากับกว่า 70 ปีที่ผ่านมาเช่นกัน ซึ่งเป็น Very Big Data ซึ่ง KBank คอนโทรลข้อมูลเกือบๆ 40% ของ Transaction ที่เกิดขึ้นของทั้ง ประเทศ
โดยเฉพาะเมื่อ KBank ไปจับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับหลากหลายแบรนด์ เรื่องของดาต้าก็ยิ่งมีความสำคัญ เพราะในแต่ละวันจะมีดาต้าเกิดขึ้นมากมาย และหลายรูปแบบ ยกตัวอย่าง การปล่อยสินเชื่อร่วมกับ Shopee การทำ Grab G-Wallet ที่มีผู้ใช้อยู่กว่า 1 ล้านราย ไปจนถึงการทำแอพขุนทองที่ปัจจุบันมีคนใช้มากกว่า 5 แสนราย จึงเป็น หน้าที่ของ Machine Learning ในการจัดทำเรื่องดาต้าเหล่านี้
ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Senior Principal Visionary Architect, KASIKORN Labs, KBTG หนึ่งในกำลัง สำคัญของงานด้านเทคโนโลยี กับบทบาทผู้สร้างทีม Machine Learning ที่มีภารกิจเร่งด่วนในเรื่องการสร้างกำลังคน ที่มีความสามารถในด้าน AI และ Data เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทางการเงิน โดยทัดพงศ์ ได้นำเอา ประสบการณ์การทำงานใน Tech Company จากซิลิคอนวัลเล่ย์ สหรัฐอเมริกา มาประยุกต์ใช้กับการทำงานที่ KBTG