นับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่แบรนด์ เบอร์เกอร์คิง ได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ ในการรีเฟรชภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ แบรนด์เลือกที่จะ Back to Basic สู่ยุค 70 เนื่องจากโลโก้ใหม่ของเบอร์เกอร์คิงเคยเป็นรูปแบบโลโก้เดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1969-1999 มาใช้อีกครั้ง
ทำไมต้องเปลี่ยนเก่าเป็นใหม่
1. โลโก้ที่เราคุ้นตากันปัจจุบันไม่มีความเรียล กล่าวคือ สีของโลโก้ที่มีแถบสีน้ำเงินนั้นทางแบรนด์มองว่า อาหารของ เบอร์เกอร์คิง ไม่มีเมนูไหนที่บ่งบอกถึงสีน้ำเงิน การเปลี่ยนกลับมาใช้โลโก้แบบเรโทรยุค 60s นั้นทำให้สีน้ำเงินถูกดึงหายไปจาก โลโก้ที่เราคุ้นเคย และให้ความรู้สึก "มินิมอล" มากขึ้น เป็นการระลึกถึงมรดกของแบรนด์นี้ที่ส่งต่อกันมา ไม่ว่าจะความเป็น เอกลักษณ์ มั่นใจ เรียบง่าย สนุกสนาน และเป็นมิตร
2. เปลี่ยนฟอนต์ใหม่เพื่อสื่อถึงเบอร์เกอร์ของเบอร์เกอร์คิง เมนูของเบอร์เกอร์คิง ที่มีความโค้งมน และหนา ที่มาพร้อม กับประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ โลโก้ใหม่นี้ก็ถูกปรับให้ตอบโจทย์วิวัฒนาการของแบรนด์ และยังคงความเป็น เบอร์เกอร์คิง ที่มั่นใจ เรียบง่าย และ สนุกสนาน
3. รีเฟรชแบรนด์ไม่ใช่แค่โลโก้ การรีเฟรชภาพลักษณ์ของแบรนด์ในครั้งนี้ จากลุคคอมฟอร์ทแบบเดิม กลายเป็นลุคที่ดู โมเดิร์นยิ่งขึ้นด้วยการดีไซน์แบบมินิมอลลิสต์ ตั้งแต่โลโก้ การตกแต่งร้าน ป้าย แผ่นเมนู ของที่ระลึก ไปจนถึงเครื่องแบบ พนักงานจะมาเติมเต็มเป้าหมายหลักของเบอร์เกอร์คิง