มร.คามัล เปิดเผยว่า เสียวหมี่ให้ความสำคัญในด้าน R&D มาโดยตลอด เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนสุดล้ำออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งเราก็อาจจะได้เห็นกันมาบ้างแล้ว เช่น Mi Mix, Redmi, Redmi Note เป็นต้นอย่างในปีที่ผ่านมา เสียวหมี่ก็ใช้ทุ่มงบลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาไปมากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปีนี้เสียวหมี่ ขอขยับสูงกว่าเดิมอีกขั้น ลุกตลาดพรีเมียมเต็มกำลัง เปิดตัว Mi 11 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด มูลค่าสูงสุดเท่าที่แบรนด์เคยมีมา ชูจุดขาย “โรงถ่ายหนังในมือ” ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ อาทิ ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888, ชุดกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล, ระบบบันทึกเสียงแบบภาพยนตร์ และระบบเสียงอันทรงพลังจาก Harman Kardon และระบบรองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 50W
“Mi 11 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้ Snapdragon 888 ชิปเซ็ตรุ่นท็อปแบบ 5nm ของ Qualcomm ใช้งานง่ายกับ MIUI 12.5 ระบบปฏิบัติการบน Android 10 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,600 mAh (typ) ที่รองรับการชาร์จแบบมีสายได้สูงสุด 55W การชาร์จแบบไร้สายที่กำลังไฟ 50W การชาร์จให้อุปกรณ์อื่น (Reverse Charging ) ที่กำลังไฟ 10W
เทคโนโลยีกล้องหลังระดับสตูดิโอ 3 ตัวที่ถูกบรรจุอยู่ใน Mi 11 ประกอบด้วย กล้องหลักซึ่งเป็นเลนส์ไวด์ความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล เลนส์อัลตร้าไวด์ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เลนส์เทเลมาโครความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าแบบ Punch Hole ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างดีเยี่ยมในทุกสภาพแสง ด้วย Night Mode พร้อมการบันทึกวิดีโอในระดับ Cinematography ด้วยโหมด AI อัจฉริยะถึง 6 โหมด อาทิ โหมด Parallel World โหมด Freeze Frame Video และโหมด Magic Zoom
ทั้งยังได้ร่วมกับฮาร์แมน คาร์ดอน พัฒนาระบบเสียงอันทรงพลังให้ Mi 11 เป็นดุจโฮมเธียเตอร์ บนหน้าจอแสดงผลคมชัดแบบ AMOLED DotDisplay ลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรชเรท 120Hz ขนาด 6.81 นิ้ว เติมเต็มอรรถรสในคอนเซ็ปต์ Movie Magic ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
เรียกได้ว่าครั้งนี้เสียวหมี่อัดความพรีเมียมมาเต็มสตรีม ถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตามอง