มองในแง่ของกลยุทธ์การตลาด คุณบุนยรัตน์ อธิบายว่าเราให้ความสำคัญทั้ง Internal คือการสื่อสารกับคู่ค้า และพนักงานขาย และส่วนที่สองคือ External คือการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภค
สำหรับคู่ค้า และพนักงานขาย ถือเป็นด่านแรกที่ต้องพบเจอลูกค้า เราให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ให้เครื่องมือช่วยขาย จัดหาสินค้าให้เพียงพอ และ “การสร้างความสัมพันธ์ และการให้ความสำคัญ” เป็นสิ่งที่เราทำต่อเนื่อง แม้จะไม่สามารถเดินทางไปพบเจอได้ เราปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมต่าง ๆ เป็นออนไลน์ทั้งหมด เพื่อให้สามารถสื่อสารและเข้าถึงคู่ค้า และพนักงานขายได้รวดเร็ว เราเปิดตัวสินค้าใหม่ นำเสนอแผนการตลาด ทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย จัดคอร์สอบรมสัมมนาให้ความรู้ เสริมสร้างเทคนิคการขาย และอีกมากมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกท่านพร้อมสำหรับการขายยุคใหม่
ส่วนของลูกค้า เราสื่อสารและสร้างประสบการณ์การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำไลฟ์สตรีมแนะนำประโยชน์ของสินค้า และโปรโมชั่นพิเศษ การทำวิดีโอสอนการใช้งาน และทำอาหารแบบง่าย ๆ การใช้ Influencer ช่วยรีวิว การเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ให้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น
“ช่วงล็อกดาวน์ ผู้บริโภคต้องอยู่บ้าน เราทำตลาดโดยเน้นความสำคัญ 3 เรื่อง คือ Keep เมื่อลูกค้าไม่ต้องการออกจากบ้าน หรือกลัวการล็อกดาวน์ ดังนั้นจึงเกิดพฤติกรรมในการซื้อของเก็บไว้ในบ้านมากขึ้น ความต้องการตู้เย็นตู้แช่จะมีมากขึ้น เรื่องที่ 2 คือ Cook ลูกค้าจะเน้นทำอาหารทานเองที่บ้าน เพื่อความสะอาด ปลอดภัย จนหลังๆ กลายเป็นความสุข ความสนุก เป็นอาชีพ สินค้าเครื่องครัวจึงกลายเป็นของจำเป็น หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ เครื่องปั่น กาน้ำ กระติกน้ำร้อน เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากขึ้น เรื่องสุดท้าย คือ Clean คนกังวลเรื่องไวรัส เรื่องฝุ่น เราเน้นเรื่อง การทำความสะอาด โดยนำเสนอเครื่องฟอกอากาศ เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องล้างจาน ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในเรื่องระบบฟอกอากาศ ระบบน้ำร้อน ช่วยฆ่าเชื้อ”
และเมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น เราใช้การสื่อสารทางออฟไลน์เสริมยิ่งขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ และการรับรู้ในวงกว้าง ทั้งการโฆษณาผ่านสื่อป้ายโฆษณานอกบ้าน รวมไปถึงสื่อในรถไฟฟ้า