2. เริ่มต้นสื่อสารจาก Why
ในมุมมองของผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่ผ่านงานมาจากอุตสาหกรรมยา รุ่งกานต์ มองว่า HR สมัย ใหม่ต้องมีการปรับตัวอย่างมากโดยเฉพาะภาพลักษณ์ที่คนส่วนใหญ่มองว่า HR คือผู้คุมกฎ
“HR ไม่ใช่ครูปกครอง ไม่ใช่ผู้คุมกฎ แต่คนส่วนใหญ่มีมุมมองว่าเราคือ ผู้รักษากฎหรือครูปกครอง มองว่าฉันทำอะไรผิด ทั้งที่บทบาทจริงๆ ของ HR คือช่วยพนักงานทุกคนให้ Empower ในทุกทาง แน่นอนว่าเรื่องของกฎระเบียบก็ยังคงต้องมี เพียงแต่ว่าวิธีการสื่อสารของ HR อาจจะต้องเปลี่ยนไปให้เข้ากับยุคสมัย
ปัจจุบันนี้วิธีการสื่อสารจะเริ่มต้นจาก Why เราต้องอธิบาย่าทำไมเราถึงต้องมีกฎนี้ แล้วถ้าคนไม่ทำตามจะเป็นอย่างไร จริงๆ ทุกอย่างเหมือนเดิมหมด กฎก็เป็นกฎเดิม เราก็ไม่ต้องสวมบทผู้คุมกฎอีกต่อไป”
3. Brand Purpose ต้องแม่น
รุ่งกานต์ อธิบายว่า พนักงาน คือหัวใจความสำเร็จขององค์กรมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่ง HR ในปัจจุบันจำเป็นต้องสร้างบรรยากาศที่เรียกว่า Positive Working
“หน้าที่เราคือทำให้พนักงานทุกคนอยากตื่นขึ้นมาแล้วตื่นเต้นกับการทำงาน เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องสื่อสารให้เกิด Brand Purpose ที่ตรงกัน ปรัชญาหลักของบริษัทคือ Celebrating Life, Every Day, Everywhere
Brand Purpose เราต้องแม่นว่า ทำอย่างไรให้คนอยากเฉลิมฉลอง แต่ไม่ใช่การเชียร์ให้คนดื่มจนขาดสติ เราต้องต้องเปลี่ยนมุมมองว่าการขายเหล้าไม่ใช่เรื่อง Negative และเราต้องเน้นการให้ความรู้เรื่องการส่งเสริมการดื่มอย่างรับผิดชอบ (Positive Drinking)"
สำหรับเป้าหมายของประเทศไทย DMHT มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายหลักใน 3 ด้าน โดยจะดำเนินการผ่านโครงการที่มีอยู่แล้วเพื่อความต่อเนื่อง ได้แก่
1. การส่งเสริมการดื่มอย่างรับผิดชอบ (Positive Drinking) ผ่านโครงการ DRINKiQ และแพลตฟอร์ม Don’t Drink Drive E-Learning
2. การส่งเสริมความเป็นเลิศด้านความหลากหลาย (Inclusion and Diversity)
3. การเป็นผู้บุกเบิกในการสร้างความยั่งยืนในทุกขั้นตอนการผลิต (Grain to Glass Sustainability) ผ่านการนำเข้าสินค้าของดิอาจิโอที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์พลาสติกจากวัสดุรีไซเคิลที่มีความปลอดภัยมาจำหน่ายในประเทศไทย และสานต่อโครงการรีไซเคิลขวดจอห์นนี่ วอล์กเกอร์หลังการบริโภค โดยการนำไปใช้ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วยไม้