เหตุผลสำคัญของการปรับกลยุทธ์ในครั้งนั้น เป็นการมองเห็นโอกาสในการเติบโตเพิ่มมากขึ้น หากสามารถปรับภาพจากแค่การเป็นของฝากที่มีโอกาสในการบริโภคไม่มากนัก มาสู่การเป็นสินค้าที่มีความถี่ในการบริโภคมากขึ้นอย่างสแน็คและอาหารพร้อมทาน จึงมีการต่อเนื่องในการดำเนินกลยุทธ์เพื่อทรานส์ฟอร์มตัวเอง
ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าสัว มีการให้น้ำหนักในการขยายช่องทางการขายผ่านร้านค้าปลีกทั้งโมเดิร์นเทรดและร้านค้าดั้งเดิมมากขึ้น โดยนอกจากการให้น้ำหนักกับเรื่องการขายแล้ว ยังมีเรื่องของการทำแบรนด์ การตลาด และการปรับแพ็กไซส์ให้เข้ากับช่องทางขายของแต่ละประเภท อย่างการออกสินค้าในกลุ่มมีท สแน็ค อาทิ หมูแผ่นกรอบ หมูแท่งกรอบ หมูแท่งกรอบ ดิปปิ้ง ซอสพริกมาโย รวมถึงข้าวตังในแพ็กไซส์ขนาดเล็กที่ขายราคา 20 บาท เพื่อเจาะร้านยี่ปั๊ว และโชวห่วย เป็นต้น
ขณะที่เรื่องของแบรนด์นั้น ในปีนี้ จะมีการทุ่มงบ 100 ล้านบาท เพื่อสื่อถึงแบรนด์วิชั่น ใหม่ที่เป็นการเพิ่มจาก “กินดี” เป็น “กินดี อยู่ดี” เพื่อผลักดันให้แบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคที่ช่วยทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น โดยดึงครอบครัวของ ลีเดีย ศรัณย์รัชต์-แมทธิว ดีน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์