ทุกวันนี้ GMM Music กำลังก้าวสู่บันไดขั้นที่ 2 ของการ Transform คือ Build - Invest – Aggregate ซึ่งคุณภาวิต อธิบายว่าหัวใจสำคัญของขั้นตอนนี้ อยู่ที่การใช้ความคิดสร้างสรรค์มาสร้าง Asset และ Value ใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ
“เรื่องแรกคือการ Build ซึ่งเป็นเรื่องภายใน เราต้องสร้างเซ็กเมนต์ให้กว้างและมีสเกล ผมถึง พูดว่าเราไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำเพียงแค่คุณภาพแต่มันต้องมีเรื่องของสเกลเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย การทำ ให้มีสเกลเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจคอนเทนต์ในอนาคต ผมไม่ได้มองว่าแกรมมี่เท่ากับ มิวสิก แกรมมี่เท่ากับ Content เมื่อเราทำ Content เราทราเวลไปได้ทุกที่ทุกโอกาสเข้าถึงคนได้กว้างกว่า การฟัง
ข้อที่สอง เรื่องการ Build ครอบคลุมไปถึงการที่เราต้องมีความหลากหลายของศิลปิน ตอนนี้ โลกกว้างมาก คนเสพเพลงหลากหลายมาก บางคนอาจจะชอบเพลงโจ๊ะๆ ชอบร็อก ชอบไอดอล มันคือ ความกว้างที่ต้องไปสืบค้นเพราะธุรกิจแพลตฟอร์มมันเข้าถึงคนได้สเกลใหญ่มากๆ”
คุณภาวิต ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่าช่วงแรกที่เข้ามารับผิดชอบจะยังไม่ค่อยลงทุน เท่าไหร่เพราะต้องปรับพื้นฐานก่อน แต่ถึงตอนนี้เราต้องเดินหน้าลงทุน เราจะลงทุนในการสร้างธุรกิจ เราจะลงทุน ในการดึงคนเก่งๆ ที่เป็นอนาคต เราจะลงทุนในเรื่องของการสร้างการผลิตที่มีคุณภาพมากขึ้น หรือลงทุนพื้นฐาน มีเดียที่มากขึ้นหรือลงทุนพื้นฐานเทคโนโลยีที่มากขึ้นนี่คือเรื่อง Invest
เรื่องที่สาม คือ Aggregate อันนี้คือมองไปสู่เรื่องของการร่วมมือกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Technology Provider หรือการสร้างศิลปิน การสร้างความร่วมมือกันพวกนี้ เพื่อก็ที่ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเห็น ว่าตอนนั้นโครงสร้างพื้นฐานของแกรมมี่แข็งแรงหมด
“วันหนึ่งผมอาจจะเป็น Showbiz Provider ให้กับสถานีทีวีก็ได้ เพราะเขาอาจจะไม่ต้องมานั่ง คิดว่าจะไปทำสถานีโชว์บิซทำไมในเมื่อแกรมมี่แข็งแกร่งขนาดนี้ เหมือนคุณเอาของไปขาย 7-Eleven คุณจะไปสร้าง 7-Eleven ทำไม ในเมื่อเราเป็น 7-Eleven ให้คุณแล้ว
หรืออย่างเช่นวันหนึ่งแกรมมี่แข็งแรงมากในเรื่องของการสร้างสินค้าศิลปิน ตัวคุณก็สามารถที่ จะร่วมมือกับเราในการสร้างสินค้าศิลปิน คุณก็ไม่ต้องไปสร้างสิ่งที่คุณต้องลงทุนมัน ทำให้ทุกคนต่างก็มี โฟกัสในไดเร็กชั่นที่ตัวเองต้องเดิน นี่คืออนาคตที่เรามอง เป็นสิ่งที่เราเดินไปสู่ความยั่งยืน
การที่เราสร้าง Asset ก็เปรียบเหมือนวัตกรรม การสร้างศิลปินนี่คือนวัตกรรม การจะได้คนที่มี DNA แบบนี้ไม่ใช่ว่าคนที่เดินออกมาจากบ้านแบบนี้แล้วจะเดินออกไปร้องเพลงได้ แบบนั้นคนที่สมบูรณ์ พร้อมเลยเขาคงเกิดมามีนวัตกรรมเลย แต่มันไม่มีอยู่จริงถึงต้องมีค่ายเพลง ค่ายเพลงจะรู้ว่าคุณมีเนื้อ ตัวแบบนี้แล้วเอามาแต่งเสริมเติมปั้นเพื่อให้เป็นศิลปินที่ได้รับความนิยม นี่คือนวัตกรรม
ยกตัวอย่างหนังยุคหนึ่งคนชอบพระเอกที่โคตรพระเอก บางช่วงก็ชอบ Bad Boy เพลงก็เหมือน กัน ไม่มีข้อจำกัดว่านี่คือต้นแบบที่ควรจะเป็น หรือนี่คือ Role Model ที่ควรจะเป็น โลกเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นคนที่มีสายตามองได้ว่า อะไรคือสิ่งที่จะเป็นแรงบันดาลใจในอนาคต ผมว่า ศิลปินคือคนที่ยืนเคียงข้างคำว่าแรงบันดาลใจได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นนวัตกรรมทางความคิดที่ดีต้อง สร้างแรงบันดาลใจให้คน เราดูศิลปินเกาหลีหลายๆ เจ้า เพลงเขานี่ไม่ใช่เรื่องรัก โลภ โกรธ หลง แต่ หลายๆ เพลงสามารถสร้างแรงบันดาลใจคนได้ทั่วโลก”