ส่วน Business Partner ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ที่จะนำเหรียญไปใช้ในกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และเป็นอีกช่องทางสำคัญในการกระจายเหรียญไปยังผู้บริโภค ได้แก่ บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด, บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน), บริษัท อินดีม กรุ๊ป จำกัด, บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน), บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน), อาร์เอส มอลล์, คามู ซี, เวลยู, ไลฟ์เมต, ไวตาเนเจอร์พลัส, สถานีโทรทัศน์ช่อง 8, คูลลิซึ่ม, อาร์เอส มิวสิค และจะมีอีกหลายแบรนด์ชั้นนำตามมา
เป้าหมายที่ประกาศไว้ของ RS Group นั้น ทางบริษัทตั้งใจจะผลิตเหรียญออกมารวมทั้งสิ้น 10,000 ล้านเหรียญใน 4 ปี โดยจะทยอยผลิตออกมาประมาณปีละ 2,500 ล้านเหรียญ
“Popcoin จะทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูล เชื่อมโยงประสบการณ์ และส่งผลที่ดีกับแบรนด์ ทำให้สามารถทำธุรกิจได้ดีมากขึ้น เพราะเป็น Business Model ที่เน้นความร่วมมือกับทุกคนเพื่อสร้าง Ecosystem ใหม่ ที่ไม่ผ่านคนกลาง เราพยายามตัดคนกลาง แล้วเอาผลประโยชน์ให้คอนซูเมอร์
เกมนี้ RS Group เล่นเกมใหญ่ ทุ่มสุดตัว Popcoin ต้องเกิด เพราะมันคือการวางแผนไปสู่ Entertainmerce เพื่อให้ทุกส่วนทำงานเต็มที่ สุดท้ายจะเป็นคอมมูนิตี้ที่ใหญ่ และจะเพิ่มความแข็งแรงด้วย Big Data ซึ่งจะถูกใช้ร่วมกันทุกฝ่าย”