ทำไมต้องเป็นนครราชสีมา?
มารุต ได้ให้เหตุผลง่ายๆ ที่เราเองก็รู้กันเป็นอย่างดีว่ามารุตเป็นชาวนครราชสีมา 100% ถ้าลองคิดในมุมมองของผู้พัฒนา VELAVERSE เป็นคนจังหวัดอื่นที่อาจจะไม่เข้าใจถึงวิถีชีวิตของเราอย่างแท้จริงจะขอหยิบยืมโลเคชั่นบ้านเกิดเมืองนอนของเราไปใช้ในเชิงธุรกิจเราคงไม่สบายใจด้วยเหตุผลหลายประการ โดยเฉพาะเมื่อผู้พัฒนานำเสนอภาพลักษณ์ที่สร้างความเข้าใจผิดสู่สายตาคนนอก ซึ่งกระทบต่อการท่องเที่ยวภายในจังหวัดอย่างแน่นอน
จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มารุตเลือกใช้เมืองนครราชสีมาที่ตัวเองรู้จักเป็นอย่างดีประสานงานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานวัฒนธรรม รวมถึงคลังของจังหวัด โดยเน้นกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและความบันเทิง ซึ่งการผนึกกำลังจากหน่วยงานภาครัฐในการสร้าง VELAVERSE ถือเป็นการพัฒนานครราชสีมาให้เป็น Smart City ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเป็นแหล่งสร้างรายได้แหล่งใหม่ให้กับผู้คนอีกด้วย
ในอนาคต VELAVERSE จะนำจังหวัดเพื่อนบ้านอื่น ๆ เช่น ขอนแก่น มหาสารคาม มาเชื่อมกับตัวเมืองนครราชสีมา ด้วยการดึงเอาพื้นที่ตัวเมืองของจังหวัดมาต่อกัน แน่นอนว่าถ้าเราอยากดื่มกาแฟที่ CLASS Café สาขานครราชสีมาข้ามไปวิ่งออกกำลังกายต่อที่สวนสาธารณะบึงแก่นนคร ตบท้ายด้วยมื้อเย็นอย่างแจ่วฮ้อน ท่าขอนยางที่มหาสารคาม ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันกัน ซึ่งนับเป็นการกระจายรายได้เข้าสู่แต่ละจังหวัดอย่างลงตัว
ด้วยความที่มารุตเชื่อมั่นว่า การวิ่งเข้าชนกับความไม่รู้ในหลายๆ เรื่อง ถือเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์มากที่สุด ซึ่งสำคัญกว่าผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้มารุตจึงสนับสนุนให้ทีมผู้พัฒนา VELAVERSE ได้มีโอกาสในการสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ และจะปล่อยฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ทุกคนได้ลองทุกเดือน โดยตั้งเป้าหมายจำนวนประชากร 100,000 คน ภายในปีนี้
การเดิมพันครั้งนี้ จัดเป็นเรื่องที่ท้าทายมากสำหรับมารุต อย่างที่มารุตเคยเล่าไว้ว่า เราต้องกลับมาคิดในฐานะสตาร์ทอัพหรือเทียบเท่ากับปลาเล็กในวงการธุรกิจ เราต้องเป็นปลาเล็กที่รวดเร็ว ต้องกล้าคิดกล้าเสี่ยง ถ้าไม่ลองเสี่ยง มัวแต่คิดช้าๆ ชัวร์ ๆ เราจะกลายเป็นปลาใหญ่ที่อุ้ยอ้ายในที่สุด ดังนั้นเมื่อเรามีไอเดียอยู่ในหัวและมีทรัพยากรที่พร้อมแล้ว ก็ไม่เหลือเหตุผลอะไรที่จะมาหยุดไม่ให้เราลงมือทำได้ ซึ่งการลงทุนครั้งใหญ่นี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงมากเพราะนอกจากจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ของผู้คนแล้ว ยังเป็นการสร้างโลกไร้พรหมแดนที่เต็มไปด้วยโอกาสที่พร้อมจะมอบให้กับทุกคนอีกด้วย
“เราค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ สิ่งที่เราเดินเหมือนง่ายและเร็ว แต่เบื้องหลังเราเจอสิ่งที่ไม่รู้ตลอดทาง เราพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ เราพยายามวิ่งเข้าชนสิ่งที่เราไม่รู้ต่างๆ ทั้งเรื่อง Blockchain, Cryptocurrency และอื่นๆ เสน่ห์ของเรื่องนี้ คือการเอาชนะสิ่งที่เราไม่รู้ ตรงนี้คือ DNA ของ CLASS Cafe ที่กล้าทดลองอะไรใหม่ๆ ก่อนคนอื่นเสมอ”