เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า แม้ในบางช่วงเวลาที่ตลาดแทบจะไม่มีการเติบโตเลย แต่ทำไมมีบางแบรนด์ที่สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายออกมาได้โดดเด่นกว่าเพื่อน....

การที่จะทำอย่างนั้นได้ นอกจากการมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาสร้างความน่าสนใจจนผู้บริโภคอยากควักเงินเพื่อซื้อสินค้าแล้ว เรื่องของการสร้าง Occasion ใหม่ๆ ในการบริโภคสินค้าก็เป็นส่วนสำคัญที่เข้ามามีผลต่อการสร้างการเติบโตให้กับตัวเอง

การสร้าง Occasion ใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้นนี้ กลายเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในภาวะที่กำลังซื้อไม่ค่อยดีอย่างทุกวันนี้ เบสิกที่สุดก็คือการครีเอทรูปแบบการกระตุ้นการขายในช่วงเทศกาล เพื่อให้เกิดการซื้อสินค้ามากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นก็คือการครีเอทเทศกาลวันแม่ เพื่อขายสินค้าประเภทรังนกสำเร็จรูป เป็นต้น

มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เกี่ยวกับการสร้างรูปแบบการใช้สินค้าใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งฉีกหนีไปจากรูปแบบการใช้สินค้าเดิมๆ ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สินค้าตัวนั้นเข้ามาในตลาด กรณีศึกษาที่ว่านี้ก็คือ การทำตลาดของน้ำยาซักผ้าขาวไฮเตอร์จากค่ายคาโอ อินดัสเตรียล 1 ใน 5 เสือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า FMCG ที่มีแบรนด์สินค้าดังๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฮเตอร์ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าแอทแทค น้ำยาทำความสะอาดพื้น – ห้องน้ำ มาจิคลีน และแชมพูแฟซ่า เป็นต้น   

ไฮเตอร์ เป็นที่รู้จักในฐานะน้ำยาซักผ้าขาวที่ทำตลาดมาอย่างยาวนาน สินค้าตัวนี้ใช้ร่วมกับผงซักฟอก ซึ่งผู้บริโภครู้สรรพคุณของสินค้าตลอดจนการใช้เป็นอย่างดีว่า ช่วยทำความสะอาดผ้าขาว ให้ขาวสะอาด ช่วยขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่แช่ผ้าในน้ำที่ผสมไฮเตอร์ ผ้าขาวก็จะกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ รวมถึงช่วยลดปัญหากลิ่นอับในเสื้อผ้า ยิ่งหน้าฝนแบบนี้เสื้อผ้าคุณอาจเกิดกลิ่นอับได้ง่าย การแช่ผ้าในไฮเตอร์ 10-15 นาที แล้วนำไปซักตามปกติ จะช่วยลดกลิ่นอับในเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่จะช่วยลดกลิ่นอับ แต่ยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่ฝังแน่นในเสื้อผ้าได้อีกด้วย

ความน่าสนใจของไฮเตอร์ อยู่ที่การหันมาสร้าง Occasion ใหม่ๆ ในการใช้ ด้วยการขยายรูปแบบการใช้ด้วยการนำมาผสมน้ำเปล่าและเช็ดทำความสะอาดเครื่องใช้ในบ้านได้ เพียงสะสมไฮเตอร์ 2 ฝา ต่อน้ำเปล่า 2 ลิตร จากนั้นใช้ผ้าสะอาดมาชุบทำความสะอาด เพราะไฮเตอร์มีส่วนผสมของสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ จึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ได้ถึง 99.9%

ไฮเตอร์ มีการสื่อสารกับผู้บริโภค ถึงรูปแบบของการใช้ใหม่ๆ ในช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งว่าไปแล้ว ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดีกับการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ทำให้กลายเป็นแรงส่งสำคัญที่เข้ามาช่วยให้การสร้างโอกาสทางการตลาดผ่านการใช้ในรูปแบบใหม่ๆ ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม

การ Educate ตลาดในรูปแบบดังกล่าว ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการใช้ผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี จากเดิมแค่ถูกใช้เป็นแค่ผลิตภัณฑ์ซักผ้าขาว มาสู่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ซึ่งน่าจะมีความถี่ในการใช้มากการรูปแบบเดิม ซึ่งไฮเตอร์เอง มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเจาะตรงถึงการใช้งานในรูปแบบของการเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด – ฆ่าเชื้อโรค ตามมามากมาย

ไม่ว่าจะเป็น ไฮเตอร์ คัลเลอร์ ชนิดน้ำ กลิ่นสวีท ฟลอรัล ไฮเตอร์ คัลเลอร์ ชนิดน้ำ กลิ่น โรซี่ พิงก์ ไฮเตอร์ คัลเลอร์ ชนิดผง กลิ่นเฟรช มิ้นท์ ไฮเตอร์ คัลเลอร์ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และ ขจัดกลิ่น พลัส ชนิดผง และไฮเตอร์ คัลเลอร์ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และ ขจัดกลิ่น พลัส ชนิดน้ำ เป็นต้น เป็นการช่วยตอกย้ำรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นได้เป็นอย่างดี

การสร้าง Occasion ใหม่ๆ ในการบริโภคสินค้า กลายเป็นทางออกที่ดีของแบรนด์ผู้นำที่เข้ามารับบทบาทในการขยายตลาด กรณีศึกษาในรูปแบบนี้มีออกมาให้เห็นหลายครั้ง อย่างการขยายรูปแบบการบริโภคนมข้นจืดของคาร์เนชั่น ที่ทำหน้าที่ของผู้นำตลาดในการเพิ่มรูปแบบการบริโภคจากแค่เป็นส่วนหนึ่งของการชงกาแฟ หรือการทำขนมเค้ก มาสู่การนำตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของเมนูอาหาร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ที่ครั้งนั้นตลาดนมข้นจืดมีการเติบโตไม่มากนัก แต่เมื่อคาร์เนชั่น ขยายโอกาสในการบริโภคผ่านรูปแบบใหม่ๆ ที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถช่วยเพิ่มปริมาณการใช้สินค้าได้เป็นอย่างดี เพราะการนำไปปรุงอาหาร มีการใช้นมข้นจืดในปริมาณค่อนข้างมาก อย่างเช่น การนำไปแช่เนื้อหรือหมู เพื่อช่วยให้นุ่มน่าทานมากขึ้น

เช่นเดียวกับ ไฮเตอร์ ที่อยู่ในฐานะของผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้าขาวในบ้านเรา การสร้างรูปแบบการใช้ใหม่ๆ ถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดที่ดี ซึ่งแน่นอนว่าจะทำแบบนั้นได้ ต้องหันมาดูที่ตัวสินค้าด้วยว่า สามารถสร้างสรรค์รูปแบบการใช้ใหม่ๆ อะไรออกมาได้บ้าง

ทั้งหลายทั้งปวงแล้ว เมื่อค้นพบจุดที่ลงตัว จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตที่ดีในระยะยาวได้.....