ส่วนการจับรางวัลนั้น จะจับรางวัลวันที่ 9,17,23,30 พ.ค. 2565/ 6,13,20,27 มิ.ย. 2565 มีรางวัลไม่ว่าจะเป็น รางวัลแผ่นทองคำ 96.5% น้ำหนัก 2.36 กรัม จากห้างทองเล่งหงษ์ จำนวน 61 รางวัล รางวัลละ 5,017.12 บาท* รวมมูลค่า 306,044.44 บาท กระเป๋าสตางค์ COACH รุ่น Wyn Small Wallet (Candy Pink) จำนวน 38 ใบ รุ่น Zip Chain Card Case (Candy Pink) จำนวน 10 ใบ รุ่น Zip Chain Card Case (Black) จำนวน 13 ใบจำนวน 61 รางวัล รางวัลละ 5,956.70 บาท รวมมูลค่า 363,358.76 บาท รางวัลจี้เพชรกังหัน แช กง หมิว จาก AURORA จำนวน 61 รางวัล รางวัลละ 6,501.14 .บาท รวมมูลค่า 396,569.75 บาท
นอกจากนี้ยังมีแจกรางวัลใหญ่ทุกสิ้นเดือน จับรางวัลวันที่ 1 มิ.ย. 2565 / 4 ก.ค. 2565 โดยรางวัลใหญ่ที่นำมาแจกมีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากแผ่นทองคำ 96.5% น้ำหนัก 96.83 กรัม จากห้างทองเล่งหงษ์ จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 200,342.13 บาท* รวมมูลค่า 400,684.26 บาท ยังมีกระเป๋า CHANEL รุ่น BOY CHANEL จำนวน 1 CHANEL 19 จำนวน 1 ใบ 2 รางวัล รางวัลละ 262,094.84 บาท รวมมูลค่า 524,189.69 บาท และชุดเครื่องเพชร AURORA จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 238,268.04 บาท รวมมูลค่า 476,536.08 บาท
ความน่าสนใจของการทำแคมเปญโปรโมชั่นในครั้งนี้ก็คือ ยูนิลีเวอร์ เลือกหยิบเอาอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ และส่วนใหญ่จะเป็นคนตัดสินใจซื้อสินค้าในกลุ่มนี้เข้ามาเป็นตัวเลือกรางวัลในการร่วมสนุก แทนที่จะทำแคมเปญแบบเนชั่น ไวด์ ที่ส่วนใหญ่จะกำหนดรางวัลอย่างทองคำ โดยในครั้งนี้ ยังให้ลูกค้าสามารถเลือกรางวัลที่ตัวเองต้องการได้ ซึ่งมีไม่บ่อยนักที่จะนำเอากระเป๋าแบรนด์เนมหรูอย่าง CHANEL เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำแคมเปญ
ที่สำคัญ ยังเล่นกับเทรนด์ “มูเตลู” ที่เป็นการตลาดยอดนิยมที่ถูกใช้เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอย่างแพร่หลายในช่วงเวลานี้ มาเป็นแกนหลักในการทำแคมเปญโปรโมชั่นที่น่าจะสร้างแรงดึงดูดในการเข้าร่วมแคมเปญได้ไม่น้อย เพราะโดนจริตและความชอบของผู้หญิงยุคใหม่ได้แบบเต็มๆ
เป็นอีกการทำแคมเปญที่ได้ทั้งแบรนด์ และการเพิ่มยอดขาย.....