ประภากร กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ LINE แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
หนึ่ง กลุ่ม Gen X, Y (36-50 / 16-35) เป็นกลุ่มที่ใช้อินเตอร์เน็ตโดยเฉลี่ยค่อนข้างสูง กล้าทดลอง เรียนรู้
ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่จะได้สัมผัสการใช้บริการของ Rabbit LINE Pay ถ้าใช้แล้วรู้สึกชอบก็จะบอกต่อทางโซเชียล รีวิวต่อๆ กัน แต่หากไม่ชอบก็จะพยายามลองบริการใหม่ๆ ด้วยเหตุนี้ Rabbit LINE Pay จึงเน้นการพัฒนาระบบและบริการให้ผู้ใช้ได้รับ First Experience ที่ดีที่สุด
สอง กลุ่ม Baby Boomer เป็นกลุ่มผู้สูงอายุขึ้นมาจากกลุ่มแรก กลุ่มนี้อาจจะต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจเป็น
อย่างมาก ในการที่จะลองใช้บริการใหม่ๆ ซึ่งก็นับแยกเป็นอีกโจทย์หนึ่งที่ท้าทายแพลตฟอร์มผู้ให้บริการอย่าง Rabbit LINE Pay เช่นกัน
“หัวใจสำคัญของนโยบายการสื่อสารของ Rabbit LINE Pay คือเน้นการสื่อสารที่ง่ายต่อการเข้าใจมากที่สุด ผู้ใช้จะต้องเข้าใจความสำคัญได้แบบไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน เพราะผู้ใช้ที่หันมาชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ล้วนต้องการความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานกลุ่มเป้าหมายทั้งสองกลุ่ม ขณะที่นโยบายด้านการตลาด Rabbit LINE Pay เน้นการทำแคมเปญที่ให้ Benefit กลับต่อผู้ใช้ที่มาใช้บริการแพลตฟอร์มของเรา ให้ผู้ใช้รู้สึกว่านอกจากจะได้ความสะดวกสบายในการใช้จ่ายแล้ว ยังได้สิ่งตอบแทนกลับมา ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ Discount, Cash Back เงื่อนไขจะต้องไม่ยุ่งยาก เพื่อให้กลุ่ม Gen X, Y เกิดความประทับใจในการใช้งานครั้งแรก”
สำหรับเป้าหมายสำคัญของ Line Pay มีอยู่ 3 เรื่องหลัก เรื่องแรก คือการ Synergy กับทาง Rabbit เพื่อสร้างเครือข่ายร้านค้าให้ครอบคลุม เรื่องที่สอง เป็นเรื่องของตัวBTS ซึ่งมีแผนกำหนดอย่างชัดเจนแล้วว่า จะต้องมี Rabbit Line Pay ที่ชำระเงินได้เพื่อส่งเสริมทางด้าน Transformation ในเมืองไทย ต่อไปจะเห็นพฤติกรรมคนใช้สมาร์ทโฟนชำระเงินแล้วเข้าเดินทางผ่าน BTS ได้ ส่วนที่สองจะเป็นเรื่องของแอดออนเซอร์วิสของทาง Line Pay ปัจจุบันมีร้านค้าประมาณ 500 รายหลักๆ ก็จะต่อยอดมากขึ้น แอดออนเซอร์วิสอาจจะมีเรื่องฟู้ด เรื่องช็อปปิ้งเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป้าหมายเรื่องที่สาม คือเรื่องของ Feature ซึ่งต้องมองเรื่องของการมี Top up Channel ที่มากขึ้น และเซอร์วิสสะดวกมากขึ้น
“ความท้าทายของ Line Pay นับจากนี้ อันดับแรก คือ การให้ความรู้ความเข้าใจคนไทยอย่างแท้จริง ว่าการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มผู้ให้บริการบนมือถืออย่าง Rabbit LINE Pay สะดวกและปลอดภัยอย่างไร อีกทั้งยังมี Benefit กลับสู่ผู้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งนับเป็นความท้าทายมาตลอดตั้งแต่การเปิดให้บริการของเรา และเชื่อว่าทุกผู้ให้บริการ ภาครัฐและภาคเอกชนให้ความสำคัญเรื่องนี้มากเช่นกัน อันดับสอง คือ การผลักดัน Cashless Society ให้เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทย โดยต้องร่วมมือทั้งกับภาครัฐและเอกชน เพื่อให้สัดส่วน 45.9% ของผู้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และมีประสิทธิภาพขึ้นพร้อมๆ กัน” ประภากร กล่าว